สังเวียนหัตถ์พระเจ้า และ ศึกซูเปอร์โบว์ล ติดโผ 16 สนามที่ ฟีฟ่า เปิดเผยว่า สหรัฐฯ, เม็กซิโก และ แคนาดา จะใช้ในบอลโลก 2026
วันที่ 17 เดือนมิถุนายน 2565 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศรายชื่อเมืองและสนามสำหรับแข่งขันที่ สหรัฐฯ, เม็กซิโก และก็ แคนาดา จะใช้รองรับการเป็นภาพเจ้าร่วม ศึกบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย รวมทั้งสิ้น 16 สังเวียน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มทีมเป็น 48 ทีม หลังจากที่ฟาดแข้งกัน 32 ทีมมาตั้งแต่ปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพร่วม 3 ชาติด้วย
16 เมืองและสนามเจ้าภาพบอลโลก 2026 ของ สหรัฐฯ, เม็กซิโก และ แคนาดา
สหรัฐฯ (11 สนาม) *ทุกสนามเป็นรังเหย้าของทีมในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล
– ลอสแอนเจลิส : โซไฟ สเตเดียม (สังเวียนศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 56 ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์)
– นิวยอร์ก/นิวเจอร์ซีย์ : เมตไลฟ์ สเตเดียม
– ดัลลัส : เอทีแอนด์ที สเตเดียม
– แคนซัส ซิตี้ : แอร์โรว์เฮด สเตเดียม
– ฮุสตัน : เอ็นอาร์จี สเตเดียม
– แอตแลนตา : เมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดียม
– ฟิลาเดลเฟีย : ลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์
– ซีแอตเทิล : ลูเมน ฟิลด์
– ซานฟรานซิสโก : ลีวายส์ สเตเดียม
– บอสตัน : ยิลเลตต์ สเตเดียม
– ไมอามี : ฮาร์ด ร็อก สเตเดียม
*หมายเหตุ – พาซาเดนา โรส โบวล์ ในนครลอสแอนเจลิส สังเวียนฟุตบอลโลก 1994 รอบชิงชนะเลิศ ไม่อยู่ในรายชื่อ 11 สนามเจ้าภาพของ สหรัฐฯ ในฟุตบอลโลก 2026
เม็กซิโก (3 สนาม)
– เม็กซิโก ซิตี้ : เอสตาดิโอ อัซเตกา (สังเวียนที่เกิดตำนาน “หัตถ์พระเจ้า” ซึ่ง ดีเอโก มาราโดนา ใช้แขนซ้ายทำประตูทีมชาติอังกฤษ ในบอลโลก 1986 รอบ 8 ทีม ซึ่ง ทีมชาติประเทศอาร์เจนตินา ชนะไปได้ 2-1 ก่อนก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้เช่นกัน)
– มอนเตอร์เรย์ : เอสตาดิโอ บีบีวีเอ
– กวาดาลาฮารา : เอสตาดิโอ อาครอน
*หมายเหตุ – เอสตาดิโอ อัซเตกา ถือเป็นสนามแห่งแรกของโลกที่ได้เป็นเจ้าภาพบอลโลก รอบสุดท้าย 3 สมัย (ปี 1970, 1986 และ 2026)
แคนาดา (2 สนาม)
– แวนคูเวอร์ : บีซี เพลส (สังเวียนฟุตบอลโลกหญิง 2015 รอบชิงชนะเลิศ สหรัฐฯ ชนะ ญี่ปุ่น 5-2)
– โตรอนโต : บีเอ็มโอ ฟิลด์